พาเที่ยว Elba Island เกาะเอลบา ที่เที่ยวที่คุณห้ามพลาดใน ลิวอร์โน อิตาลี !!

พาเที่ยว Elba Island เที่ยวอิตาลี เป็นอีกหนึ่งเกาะที่สวยงาม มีนักท่องเที่ยว นิยมมาเที่ยวที่เกาะแห่งนี้ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมาย

พาเที่ยว Elba Island ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยว ในประเทศอิตาลี ที่ชื่อเกาะเอลบา สำหรับนักท่องเที่ยว ชาวไทยแล้วบางท่าน ก็อาจจะไม่คุ้นหู โดยส่วนมากแล้ว นักท่องเที่ยวชาวไทย จะรู้จักสถานที่ท่องเที่ยว ในประเทศอิตาลี เช่น โรม เวนิช มิลาน เป็นต้น.

พาเที่ยว Elba Island เกาะเอลบาคือที่ไหน? ตั้งอยู่ส่วนไหนของโลก?

เกาะเอลบาเป็น ที่เที่ยวอิตาลี ธรรมชาติ เกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ ในอันดับต้นๆ และเป็น สถานที่ท่องเที่ยวในอิตาลี ที่น่าสนใจ เป็นเกาะ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของ หมู่เกาะทัสคานี ของอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะทัสคานี ซึ่งเป็นอุทยานทางทะเล ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป.

บนแผนที่อิตาลี มีจำนวนเกาะอยู่ ประมาณ 700 เกาะ ในจำนวนเกาะเหล่านี้ เกาะเอลบาถูกจัด ให้เป็นเกาะที่มี นักท่องเที่ยวเดินทาง มาจากทั่วโลก เพื่อท่องเที่ยวพักผ่อนยัง เกาะเอลบา ประเทศอิตาลี มากที่สุด โดยเกาะเอลบา มีเนื้อที่ของเกาะ 223.5 ตารางกิโลเมตร จุดสูงสุดของ เกาะเอลบาคือ Monte Capanne สูง 1,018 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เมืองหลวงของเกาะคือ ปอร์โตเฟอร์ราโย.

สภาพอากาศ ที่ไม่รุนแรง ของเกาะเอลบา รองรับพืชพันธุ์หลากหลายชนิด ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พร้อมด้วยสวนมะกอก และไร่องุ่นที่อุดมสมบูรณ์ การจ้างงานแบบดั้งเดิม ได้แก่ การจับปลากะตัก ปลาซาร์ดีนและ การจับปลาทูน่า รวมทั้งการขุดแร่เหล็ก.

เกาะเอลบา มีชายหาดอันงดงาม มีมรดกทางประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจ.

เกาะเอลบาในยุค ก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งในตอนนั้น เป็นที่อยู่อาศัย ของชาวอิทรุสกัน โดยชาวอิทรุสกัน ได้ขุดแร่เหล็กที่เมืองเอลบา ในสมัยนั้นชาวกรีก เรียกว่าเอธาเลีย (“Smoky Place”) อาจเป็นเพราะมีควัน จำนวนมากมาจาก เตาหลอมถลุงเหล็ก ชาวโรมันที่เรียก เกาะเอลบาว่า เกาะอิลวา ยังขุดแร่เหล็ก และตั้งฐานทัพเรือบนเกาะ.

ชาวเกาะเอลบาถูกปกครอง โดยชาวปิซา ในช่วงยุคกลาง แล้วได้ผ่านมือการปกครอง ไปให้ชาวเจนัว ในปี 1290 และในปี 1399 ให้แก่ดยุกแห่งปิออมบิโน ผู้ซึ่งยกให้ โกซิโมที่ 1 เด เมดิชิ แห่งฟลอเรนซ์ ในปี ค.ศ. 1548 ในกาลต่อมา ส่วนหนึ่งของเกาะนี้ ก็ตกอยู่ในมือของสเปน ในช่วงปี ค.ศ. 1596 ถึง ค.ศ. 1709 หลังจากนั้นก็ถูกปกครอง โดยชาวเนเปิลส์จนมา ในปี ค.ศ. 1802 เกาะเอลบาถูกยกให้ฝรั่งเศส.

เกาะเอลบาในปี ค.ศ. 1814 ช่วงระหว่างที่ จักรพรรดินโปเลียน ลี้ภัยสละราชสมบัติ ในปี ค.ศ. 1814 เขาถูกเนรเทศ ไปยังเกาะเอลบา เขามาถึงเกาะเอลบา เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม เกาะเอลบานี้ ได้รับการยอมรับ จากฝรั่งเศสให้เป็น อาณาเขตที่เป็นอิสระ โดยมีจักรพรรดินโปเลียน เป็นผู้ปกครอง เกาะเอลบาแห่งนี้.

จนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1815 ซึ่งเป็นวันที่ จักรพรรดินโปเลียน ต้องการกลับคืนสู่อำนาจ โดยได้ทำการหลบหนี ออกจากเกาะเอลบา จักรพรรดินโปเลียน ได้ถูกล้อมจับ โดยกองเรืออังกฤษ ในปี 1815 ในเวลาต่อมา นโปเลียนถูกเนรเทศ ไปเกาะเซนต์-เฮเลนา และสิ้นพระชนม์ลงในปี ค.ศ.1821.

หลังจากนั้นเกาะเอลบา ก็กลับคืนสู่ แคว้นทัสคานี และได้ส่งต่อไปยัง อิตาลีที่รวมเป็นหนึ่งในปี ค.ศ. 1860. ที่พำนักของ จักรพรรดินโปเลียน บนเกาะเอลบา คือ Palazzina dei Mulini มีความทรงจำมากมาย เกี่ยวกับอดีตอันรุ่งโรจน์ เมื่อได้ไปเยือนเกาะนี้ ตั้งแต่การค้นพบ ทางโบราณคดี ในพิพิธภัณฑ์ จนถึงป้อมปราการที่น่าประทับใจ และสิ่งปลูกสร้าง ทางการทหาร เช่น Castello del Volterraio.

การเดินทางไปท่องเที่ยว ที่เกาะเอลบา ไม่ยากอย่างที่คิด

การเดินทางไปเกาะเอลบา จากแผ่นดินใหญ่ มีระยะทาง 10 กม. โดยนักท่องเที่ยวสามารถ เดินทางโดยสารเรือข้ามฟาก เพื่อไปเกาะเอลบา ใช้เวลาประมาณ 70 นาที โดยขึ้นเรือจากท่าเรือ Piombino ที่มีเรือออกเป็นประจำ เกาะเอลบามีชื่อเสียงไปทั่วโลก จากการที่เคย เป็นที่พำนักของ จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ของฝรั่งเศส.

หมู่บ้าน Poggio มีน้ำพุที่ตั้งชื่อ ตามจักรพรรดินโปเลียน มันขึ้นชื่อเรื่องน้ำแร่ แต่สิ่งที่ทำให้ เกาะเอลบามีชื่อเสียง และโด่งดังจริงๆ คือทะเลสีฟ้าใส และชายหาดที่สวยงาม ภูมิประเทศอันอุดมสมบูรณ์ ทั้งทางบกและทางทะเล ทำให้เกาะเอลบา กลายเป็นจุดหมายปลายทาง ที่ไม่เหมือนใครในอิตาลี เราสามารถพูดได้ว่า เป็นสวรรค์บนดิน เลยก็ว่าได้.

เกาะเอลบานอกจาก ด้านประวัติศาสตร์แล้ว ยังเป็นสถานที่ พักผ่อนตากอากาศ ท้องทะเลที่นี่ เหมาะสำหรับการดำน้ำลึก และดำน้ำตื้น พื้นที่ใต้ทะเล ของเกาะเอลบา มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีสัตว์ทะเล หลากหลายสายพันธุ์ หรือผู้ชื่นชอบ กิจกรรมกลางแจ้ง ก็ยังสามารถเพลิดเพลิน กับการเดินป่า ปั่นจักรยาน และล่องเรือใบ เพลิดเพลินในวันพักผ่อน อย่างเต็มกับบ่อน้ำร้อน เมืองซานจิโอวานนี.

ชายหาดที่สวยที่สุด บนเกาะเอลบา มีชายหาดมากกว่า 70 แห่ง บนเกาะเอลบา แต่ละแห่งก็มีสีสัน และสภาพแวดล้อม ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะรายล้อมไปด้วย หน้าผาสูงชัน ที่สูงชันหรือน่าดึงดูดใจ หรือท่องเที่ยวอยู่ใน พืชพรรณธรรมชาติ และเพียบพร้อมไปด้วย สิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งป่าและท้องทะเล.

จากที่ได้พาทุกท่าน ไปทำความรู้จัก กับเกาะเอลบา ของประเทศอิตาลีแล้ว อยากทุกท่านได้ลองไป ท่องเที่ยวสัมผัสความงดงาม เปิดประสบการณ์ใหม่ที่ Elba Island ดูสักครั้ง แล้วจะไม่ผิดหวังเลย.

*** มารฝัน ***