ที่เที่ยวมรดกโลก สถานที่ท่องเที่ยวสุดUnseenนั้นมีที่ไหนกันบ้าง?
ที่เที่ยวมรดกโลก สถานที่ท่องเที่ยว ที่เราจะนำมาแนะนำ เป็นโบราณสถาน หรือแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ ที่ช่วยให้เรา ได้จินตนาการถึง ความยิ่งใหญ่ในอดีต ความอุตสาหะและความร่ำรวย ทางวัฒนธรรมความคิดสร้างสรรค์ จากตลอดจนความเชื่อ และศรัทธาอันแก่กล้า ที่มีต่อสิ่งที่เคารพบูชา
ที่บุคคลในสมัยโบราณ แสดงออกมาได้อย่างน่าทึ่ง เราจึงขอรวบรวม โบราณสถานสำคัญ ที่สวยงามที่สร้างขึ้น จากฝีมือมนุษย์ และได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก หรือองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ จากแต่ละประเทศครับ
ที่เที่ยวมรดกโลก Mont Saint Michel วิหารชื่อดังอันงดงามที่ตั้งตะง่านอยู่กลางเกาะ
เป็นวิหารที่ตั้งอยู่ อย่างโดดเดี่ยวกลางทะเล ชายฝั่งแคว้นนอร์มังดี ห่างจากกรุงปารีส 300 กิโลเมตร สำหรับใครที่เป็นแฟนหนัง Harry Potter อาจจะดูคุณตาไม่น้อย เพราะที่นี่เป็นโลเคชัน ของโรงเรียนสอนเวทมนต์ ฮอกวอตส์อันโด่งดังนั้นเอง
เดิมเกาะแห่งนี้ มีผู้คนอาศัยอยู่ก่อนแล้ว แต่มีนักบุญมาเข้าฝัน ท่านบิชอปให้สร้างโบสถ์ขึ้นที่นี่ จึงต้องใช้วิธีขนหินข้ามทะเล ในช่วงน้ำลดมายังเกาะ เพื่อมาสร้างโบสถ์ โดยเริ่มสร้างมาตั้งแต่ คริสต์ศักราช 702 และได้สร้างเพิ่มเติมเรื่อยมา
การปรับปรุงเริ่มมาจนถึงศตวรรษที่ 15 จึงมีสไตล์ของกลางรวมอยู่ด้วย โดยยอดวิหารสูง ซึ่งเป็นส่วนบนสุดของเกาะ สูงจากระดับน้ำทะเล 155 เมตร ปัจจุบันการเดินทาง มายังเกาะนี้ มีการสร้างถนนเชื่อมถึงกัน
แต่ผู้สร้างถนน ได้ตั้งใจสร้างถนน ให้จมอยู่ใต้น้ำ จึงทำให้ผู้คนที่จะเข้ามา จะเข้าได้ก็ต่อเมื่อ น้ำลดเท่านั้น ซึ่งทำให้วิหารแห่งนี้ ยิ่งดูลึกลับ และน่าค้นหาเป็นอย่างมาก และได้ขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1979
Machu Picchu ประเทศเปรู เมืองแห่งอารยธรรมโบราณที่สำคัญที่สุดในทวีปอเมริกาใต้
มาชูปิกชูประเทศเปรู อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2350 เมตร บนที่ราบสูงแอนดิส ลึกเข้าไปในป่าอเมซอน ที่นี่เป็นแหล่งอารยธรรม ที่สำคัญที่สุด ในทวีปอเมริกาใต้ สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดยชาวอินคา ตัวเมืองทำเป็นขั้นบันได ไล่ลงมาตามความชัน ของหุบเขามีทั้งหมด 40 ชั้น มีสิ่งก่อสร้างด้วยหินกว่า 200 หลัง เชื่อมต่อกันด้วยบันไดกว่า 3 พันขั้น
ที่นี่เป็นสถานที่ ที่เกิดแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่น่าแปลกที่เมืองแห่งนี้ ไม่เคยได้รับ ผลกระทบเลย ที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจาก หินทุกก้อนนั้น จะทำการตัดแต่ง อย่างเป็นระเบียบ เรียงซ้อนกันได้อย่างสวยงาม โดยการออกแบบที่น่าทึ่ง ที่มีแต่วิศวกร ระดับสูงเท่านั้นที่ทำได้
โดยหินแต่ละก้อน จะถูกตัดเป็นสลัก ที่แยกออกจากกัน ทำให้เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ที่นี่จะไม่ได้รับ ผลกระทบแม้แต่น้อย นี้เป็นอีกหนึ่งความลับ ของอารยธรรมอินคา ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต
ชาวอินคานับถือพระอาทิตย์ ซึ่งมีที่นี่ไว้คอยสังเกตการณ์ การเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ และกล่าวกันว่า มีการทำพิธีบูชายัญอาทิตย์อีกด้วย ที่นี่หายสาบสูญไปราว 300 ปี ก่อนจะค้นพบโดย นักโบราณคดีชาวอเมริกัน เมื่อต้นศตวรรษที่ 20
ชาวเปรูยังใช้ที่นี่ เป็นป้อมปราการสุดท้าย ในการต่อสู้กับสเปน ก่อนจะตกเป็นอาณานิคม ของสเปนในที่สุด มาชูปิกชู ขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกเมื่อปี 1983
Petra Jordan นครเพทรา ประเทศจอร์แดน นครที่สร้างจากทรายสีชมพูอยู่ท่ามกลางทะเลทราย
สำหรับคอหนังผจญภัย อย่างอินเดียน่าโจนส์ คงจะคุ้นเคยกับ เพทรา อยู่บ้างไม่มากก็น้อย นครเพทราใช้เป็นฉาก ในหนังมาหลายต่อหลายเรื่อง โดยเฉพาะบริเวณ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างเป็นอาคาร 2 ชั้น ระดับด้วยเสาแบบโคลินเทียน สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู และการแกะสลัก ภูเขาทั้งลูก
เพทราเป็นเมืองเก่าแก่ ที่มีอายุอย่างน้อย 400 ปี ก่อนคริสตกาล ซ่อนตัวอยู่ในช่องเขา เป็นศูนย์กลางการค้า ทางบกที่สำคัญ มีผู้คนหลายเชื้อชาติ เข้ามาปกครอง ไม่ว่าจะเป็นกรีดหรืออียิปต์ จวบจนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
และการเดินทางทะเลนั้น มีความสำคัญมากขึ้น ทำให้เพทรา กลายเป็นเมืองร้าง ถูกปกคลุมไปด้วย ทรายจนกระทั่งในศตวรรษที่ 19 ได้มีนักเดินทาง ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ค้นพบความงดงาม ของนครเพทราอีกครั้ง และได้ขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1985
Chichan Itza ประเทศเม็กซิโก อาณาจักรโบราณ ที่ทรงอิทธิพลของชนเผ่ามายา
Chichan Itza ประเทศเม็กซิโก หลายคนอาจจะ ทราบมาก่อนว่า อาณาจักรโบราณ ที่ทรงอิทธิพล ที่สุดบนทวีปอเมริกากลาง ก็คืออาณาจักรมายา ซึ่งครองความยิ่งใหญ่ มาตั้งแต่ช่วง 500 ปี ก่อนคริสตกาล มาจนถึงศตวรรษที่ 15 และที่นี่ก็เป็น โบราณสถานที่สะท้อน ความรุ่งเรืองของ อารยธรรมมายา ได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะวิหาร ทรงพีระมิดหัวตัดขนาดใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความ เชี่ยวชาญทางดาราศาสตร์ ของชาวมายา วิหารนี้มีบันไดทางขึ้น 4 ด้าน ด้านละ 91 ขั้นรวมเป็น 364 ขั้น และด้านบนนับรวมได้ 365 เท่ากับจำนวนวันใน 1 ปี
แต่ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 13 ชาวมายันละทิ้งบ้านเรือน อพยพไปจากพื้นที่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นป่ารกร้าง ก่อนจะได้รับการบูรณะฟื้นฟู ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ในภายหลังและขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1986
โดยช่วงเวลาที่ เหมาะจะไปเที่ยว ก็คือฤดูใบไม้ร่วง และใบไม้ผลิ ในเวลาที่กลางวัน เท่ากับกลางคืน จะทำให้เห็นการตกกระทบ ของแสงอาทิตย์ และพีระมิดที่งดงาม
HAPI ประเทศอินเดีย เมืองหลวงที่รุ่งเรือง เมืองสุดท้ายของอาณาจักรฮินดู
ถ้าพูดถึงประเทศอินเดีย หลายคนคงจะนึกถึง ทัชมาฮาล แต่ที่จริงแล้ว อินเดียจะมีมรดกโลก ที่น่าสนใจอีกหลายแห่งรวมทั้งที่ HAPI ซึ่งเป็นเมืองโบราณ ของวิทยานคร เมืองหลวงที่รุ่งเรือง เมืองสุดท้ายของอาณาจักรฮินดู ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ก่อนที่จะถูก ชาวเปอร์เซียรุกราน
HAPI ตั้งอยู่ทางตอนใต้ ของประเทศอินเดีย เมืองนี้ยังเป็นเมืองใหญ่ ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 ในยุคกลาง โดยเป็นรองแค่เพียง กรุงปักกิ่งของ ประเทศจีนเท่านั้น แม้สถาปัตยกรรม ในตัวเมืองจะผุพัง ไปบ้างก็ตาม ตามกาลเวลา
แต่ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง ป้อมปราการหรือวัดที่สร้างขึ้น เพื่อบูชาพระศิวะ ศิลปะแบบดราวิเดียน อย่างวัดวิรูปักศา ที่ภายในมีสถูปสูง 49 เมตร และราชรถหิน ก็ยังคงความงดงาม เห็นอย่างชัดเจนในปัจจุบัน ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1986
เป็นยังไงบ้างละครับ สำหรับที่เที่ยว ที่เป็นมรดกโลก ที่เราได้นำมาแนะนำ บอกได้เลยว่า ถ้าชีวิตนี้ได้ไปสักครั้งละก็ ไม่เสียชาติเกิดเลยละครับ ถ้าต้องการคำแนะนำสถานที่เที่ยวดี ๆ ก็ติดตามต่อได้นะครับ
***มารฝัน***