สถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ จนคุณอาจจะร้องว่า มีแบบนี้ในโลกด้วยเหรอ!?!
สถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ บางครั้งเมื่อเรา ได้ออกไปเปิดหูเปิดตา กับโลกภายนอก ออกไปท่องเที่ยว มาหลายสถานที่ ไม่ว่าจะขึ้นเหนือลงใต้ และในบางครั้ง เราก็ต้องการ ประสบการณ์ท่องเที่ยว ที่ต่างออกไป สถานที่ที่คนทั่วไป ไม่ได้นึกถึงเป็นที่แรก ๆ สถานที่ที่ให้ ความรู้สึกตื่นเต้น ลึกลับ ทำให้เกิดกระแส ท่องเที่ยว ที่ แปลก และเป็นที่นิยม พอสมควรในหมู่ นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง
ความตื่นเต้นนั้น หากมองในหลัก มนุษยศาสตร์นั้น เป็นความรู้สึก ที่ทำให้ร่างกายของเรา นั้นตื่นตัว เมื่อเราอยู่บนโลก ที่สงบสุข ไม่ต้องดิ้นรน เพื่อเอาชีวิตรอด ความกลัว ความตื่นเต้น ความกังวล ได้กลายเป็นความรู้สึก ที่มนุษย์ทั่วไป เริ่มไม่คุ้นเคย
และเมื่อเราได้สัมผัสมัน ผ่านการท่องเที่ยว บางคนก็เริ่มเสพติด บ้างก็หันไปเล่น กีฬาเอ็กซตรีมเพื่อ เสพความตื่นเต้น เร้าใจ และอีกตัวเลือกหนึ่ง คือการไปค้นหา พิกัด สถาน ที่ แปลก ๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็น เที่ยวต่างประเทศ หรือ เที่ยวในประเทศ
และบทความนี้ เราจะมาแนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวนิยม ที่เป็น ชื่อสถานที่แปลกๆ ให้ผู้ที่สนใจไปรับประสบการณ์ สุดพิเศษดู
สถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ
- ธารน้ำแข็ง แอนตาร์กติก
หุบเขาที่ไม่มีหิมะ ปกคลุมทั้งที่อยู่ ในแอนตาร์กติกา โดย ธารน้ำแข็งที่สุดแปลก ก็ตั้งอยู่ที่นี่เลย โดยพื้นที่ที่สุดแปลก คือมีธารน้ำแข็ง ที่มีสีแดงอมส้ม ถึงทำให้ติดกับ สีน้ำแข็งปกติที่ อยู่บริเวณ(สีขาว)
ซึ่งทำให้ทัศนียภาพ ที่เราได้มองเห็นนั้น มันสุดแปลก และน่าค้นหา โดยสาเหตุ ที่ธารน้ำแข็งนั้นมีสีแบบนั้น เกิดจากการที่มี ออกไซด์ของเหล็ก หรือเรารู้จักกันในชื่อว่า สนิมเป็นจำนวนมาก ในบริเวณนั้น ทำให้มันผสมเข้าไป กับธารน้ำแข็งนั้น ซึ่งคนท้องถิ่นก็จะ เรียกสิ่งนี้ว่า “น้ำตกเลือด”
- ทะเลสาบสปอท เลค ประเทศแคนาดา
ทะเลสาบที่มี แร่ธาตุหลายชนิดมาก เช่น แมกนีเซียม ซัลเฟต แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ที่เข้มข้นมาก ๆ เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ด้วยสถานที่นี้ อยู่ในพื้นที่เอกชน จึงทำให้เราสามารถดูได้ จากระยะไกลเท่านั้น ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้
ป่าหิน ที่มีอายุกว่าร้อยล้านปี
- ป่าหิน ประเทศจีน
ป่าหินเป็นพื้นที่ ในอุทยานของเมืองคุนหมิง จัดเป็นป่าหินที่ใหญ่ที่สุด ในโลกในตอนนี้ แต่ด้วยการที่เป็น ทรัพยากรในการคุ้มครอง ทำให้นักท่องเที่ยว เข้าไปรับชมได้ ในพื้นที่จำกัดเท่านั้น จาก 12 ตารางกิโลเมตร จากทั้งหมด 350 ตารางกิโลเมตร (ซึ่งก็เยอะสำหรับ นักท่องเที่ยวแล้ว) จากการสำรวจพบว่า ป่าหินนี้ยังมีอายุ เป็นหลักร้อยล้านปีแล้วด้วย ช่างน่าสนใจ มากเลยทีเดียว
- นครเพตรา ประเทศจอร์แดน
นครหินแกะสลัก โบราณจากประเทศจอร์แดน ที่ตั้งอยู่ในที่ลับ ในหุบเขาวาดี มูซา แถมหุบเขานี้ ยังตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบเดดซี กับ ทะเลอัคบาอีกด้วย เมืองของนครเพตรานั้น เป็นการแกะสลัก ในหินแทบทั้งหมด คุณสามารถมองเห็น แกะสลักตั้งแต่เดินเข้าไป วิคหาร บันได หลุมศพ และห้องทุก ๆ ห้องในนคร
โดยนครเพตรา ยังจัดว่าเป็นอารยธรรมเก่าแก่ ของตะวันออกกลาง จากร่องรอยประวัติศาสตร์นั้น นครเพตราเป็น นครแห่งการค้าขนาดใหญ่
ในสมัยนั้น ที่ถูกทิ้งไว้นานถึง 700 ปี ก่อนจะมีนักสำรวจ เข้ามาพบเห็นในปี 1812 จนกลายเป็นแหล่งความรู้ ของเหล่านักโบราณคดี ไขความลับประวัติศาสตร์ อีกมากมาย ทำให้ปัจจุบันได้ กลายเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่น่าพิศวง ลึกลับ และน่าค้นหา
เมืองที่นับเวลาถอยหลังที่จะหายไปจากแผนที่โลก
- เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี
เมืองนี้นั้นไม่ได้แปลก เท่ากับสถานที่อื่น ๆ แต่ด้วยวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ ของมันนั้น ทำให้ผู้ที่ได้ไป สัมผัสประสบการณ์ที่ เป็นเอกลักษณ์ของเมือง การวางสถาปัตยกรรม ที่สวยงามทั้งเมือง กลางทะเลสาบที่สวยงาม จนได้ฉายาว่า The Queen of the Adriatic และ The City of Water
เวนิสเป็นเมือง ที่เป็นที่เลื่องลือกัน ตั้งแต่ในประวัติศาสตร์ เพราะเป็นศูนย์กลาง ของนักเดินเรือ เป็นหนึ่งในศูนย์กลาง การค้าของทวีปยุโรป เป็นระยะเวลาพันปี ซึ่งแนะนำว่า นักท่องเที่ยวควรไป เที่ยวให้เร็วที่สุด เพราะนักวิชาการ คาดว่ามันจะจมและหายไป จากแผนที่โลกในอนาคต
- ทะเลสาบฮิลลิเออร์ ประเทศออสเตรเลีย
ทะเลสาบแห่ง Middle Island ที่มีความแปลก ด้วยสีของทะเลสาบ ที่ชมพูไล่เฉดกับ ท้องฟ้าสวยงาม เหมือนเราเห็นนมเย็น สตรอเบอร์รี่มิลค์เชค ในขนาดมหึมา ซึ่งหลาย ๆ คนก็อาจจะคิดว่า มันเกิดจากแสงสะท้อน หรือตะกอนอะไรบางอย่าง ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นรึเปล่า แต่ความจริงแล้วไม่เลย
ถ้าคุณตักน้ำขึ้นมา มันก็ยังเป็นสีชมพู นักวิทยาศาสตร์ค้นหาอยู่นาน ก็ยังหาคำตอบ อย่างมั่นใจไม่ได้ มีเพียงสันนิษฐานว่า เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ในเกล็ดของเกลือ ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น
ภูมิปัญญาทั้งหมดของชาวมายัน สรรค์สร้างเป็นวิหารยักษ์
- ชีเชนอิตซา ประเทศเม็กซิโก
สถานที่ที่นักท่องเที่ยว รู้จักกันดี จึงแนะนำให้คน ที่ไม่เคยไป ได้ลองไปสักครั้งหนึ่ง มันมีเหตุผล ที่สถานที่นี้มีความนิยมอยู่ ซีเชนอิตซา เป็นภาษามายาที่แปลว่า ต้นทางแห่ง ความสุขสบายของประชาชน
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ของความรุ่งเรืองในยุคนั้น ชาวมายันนั้น สร้างนี้เป็นอนุสรณ์ ของเทพเจ้า ด้วยรูปแบบสามเหลี่ยม ที่ข้างบนเป็นที่พัก ของพระเจ้า เป็นสิ่งที่แสดงถึง ภูมิปัญญาทั้งหมด ที่มีของชาวมายัน ในหลาย ๆ ด้าน
ติดตามเว็บไซต์เอาไว้ เพื่อที่คุณจะไม่พลาด บทความดี ๆ แบบนี้ต่อไปในอนาคต
ติดตามบทความดี ๆ ท่องเที่ยวต่างประเทศ ได้ที่นี่ >>> ท่องเที่ยวปี 2565 <<<
เรียบเรียงโดย อลิส
-รวมเว็บพนันอื่น ๆ ที่น่าสนใจ-